สมัยนี้ จะเดินไปทางไหนคุณก็มีโอกาสเห็นคำว่า “สกัดเย็น” หรือ Cold-pressed อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหรือสกินแคร์จากธรรมชาติ ขึ้นชื่อว่าสกัดเย็นแล้ว การันตีได้เลยว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะมีความบริสุทธิ์และอุดมไปด้วยประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างน้ำมันสกัดเย็นก็เป็นสกินแคร์อีกประเภทหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนที่ชื่นชอบส่วนผสมจากธรรมชาติ และเชื่อมั่นว่าพลังจากพืชพรรณจะช่วยปรนนิบัติผิวโดยไม่จำเป็นต้องเติมสารอื่นใดลงไปปรุงแต่ง
แต่รู้หรือเปล่าว่า การบำรุงผิวด้วยน้ำมันสกัดเย็นแท้จริงแล้วไม่ใช่เทรนด์ใหม่ แต่เป็นวิธีการที่นิยมมายาวนานหลายพันปีแล้ว ซึ่งการใช้ส่วนผสมที่บริสุทธิ์นี้เองเป็นจุดเริ่มต้นของผิวพรรณสุขภาพดีและลดความกังวลเรื่องสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองของผิว วันนี้ YURI & TERRA จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกระบวนการสกัดเย็นกันให้มากขึ้นตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ไปจนถึงวิธีการเลือกซื้อออยล์สกัดเย็นในปัจจุบันให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อผิวพรรณอย่างแท้จริง
ปกติแล้ว น้ำมันที่เราคุ้นเคยกันดี ทั้งน้ำมันสำหรับประกอบอาหาร หรือออยล์บำรุงผิวสูตรทั่วไปที่วางขายตามท้องตลาดนั้นเป็นออยล์ที่ผ่านกระบวนการ “สกัดร้อน” โดยนำวัตถุดิบไปผ่านความร้อนเพื่อแยกชั้น จากนั้นจึงแยกน้ำมันที่ลอยตัวขึ้นมาออกไปใช้งาน ซึ่งแม้จะเป็นวิธีการที่สะดวกรวดเร็วและตอบโจทย์การผลิตเชิงอุตสาหกรรม แต่สารอาหารและคุณสมบัติบางอย่าง เช่น ความหอมของน้ำมันจะหายไปพร้อม ๆ กับการใช้ความร้อน
ในขณะที่กระบวนการทำน้ำมันสกัดเย็น (Cold-pressed Oil) นั้นเป็นวิธีการแยกสกัดน้ำมันออกจากส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น เมล็ด ใบ เปลือก หัว ดอก ผล หรือลำต้น โดยที่ส่วนผสมเหล่านั้นไม่ผ่านความร้อนและการปรุงแต่ง (Refinement) ใด ๆ
กระบวนการสกัดเย็นเป็นวิธีการสกัดน้ำมันที่เก่าแก่และมีใช้กันมาตั้งแต่สมัยอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ (Indus Valley Civilization) เมื่อสามพันปีก่อนคริสตกาล โดยในสมัยนั้นมีเครื่องมือที่เรียกว่า “Ghani” ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก ทำจากไม้หรือก้อนหินขนาดใหญ่ช่วยในการบีบอัดเมล็ดพืชให้แตกเพื่อให้ได้น้ำมันออกมา ก่อนจะนำไปตั้งทิ้งไว้เพื่อให้เกิดการแยกชั้นตามธรรมชาติ
เมื่อโลกของเราพัฒนาไปมากขึ้น กระบวนการทำน้ำมันสกัดเย็นได้มีการพัฒนาเพื่อให้เกิดทั้งความสะดวก สะอาด และถูกสุขอนามัยให้กับผลิตภัณฑ์ แต่ยังคงใช้หลักการดั้งเดิม คือ การใช้เครื่องมือบีบอัดวัตถุดิบที่อุณหภูมิปกติ แล้วจึงตั้งไว้ให้ตกตะกอน เพื่อให้น้ำมันแยกชั้นแล้วจึงนำไปใช้งาน โดยกระบวนการทั้งหมดนี้จะไม่มีการใช้ความร้อนหรือสารเคมีใด ๆ
โดยปกติแล้ว วิตามินบางตัวจะถูกทำลายเมื่อโดนความร้อน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่การรับประทานผักผลไม้สด ๆ ให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผักผลไม้ที่ผ่านการปรุงหรือกระบวนการแปรรูป การทำน้ำมันบำรุงผิวก็เช่นเดียวกัน ด้วยความที่กระบวนการสกัดเย็นนั้นเป็นการสกัดน้ำมันที่อุณหภูมิปกติ ไม่ผ่านการใช้ความร้อนใด ๆ เพราะฉะนั้น สารอาหาร วิตามินต่าง ๆ และสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันจึงยังไม่ถูกทำลาย
กระบวนการสกัดเย็นนั้นไม่มีการเติมหรือปรุงแต่งอย่างสี กลิ่น หรือวัตถุกันเสียใด ๆ ลงไป จึงมั่นใจได้ในความบริสุทธิ์ ยิ่งถ้าผลิตจากพืชออร์แกนิกด้วยแล้วยิ่งสบายใจว่าปราศจากสารเคมีตกค้างที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวในอนาคต ทั้งยังมีสีและกลิ่นที่เป็นธรรมชาติน่าใช้งาน
เนื่องจากน้ำมันบำรุงผิวที่ผลิตด้วยกระบวนการสกัดเย็นนั้นสะอาด บริสุทธิ์ ทั้งยังมีความอ่อนโยนและปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว ซื้อเพียงขวดเดียวก็สามารถนำมาใช้บำรุงได้ทั้งผิวหน้า ผิวกาย ตลอดจนเส้นผมและเล็บ ไม่ต้องแยกสกินแคร์สำหรับผิวหน้าและผิวกายออกจากกัน และยังมอบการบำรุงอันล้ำลึกได้ทุกจุดตามที่คุณต้องการ
1. ปัจจุบันมีน้ำมันบำรุงผิวให้เราเลือกซื้อมาใช้มากมาย บางขวดก็เขียนให้เห็นชัดเจนว่าผลิตด้วยกรรมวิธีสกัดเย็น แต่บางขวดอาจไม่ได้ระบุไว้ให้ชัดเจนว่าใช้วิธีการใด ก่อนซื้อจึงควรสังเกตและหาข้อมูลไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ตรงตามความต้องการมากที่สุด ดังนี้
ผู้ผลิตมีกระบวนการสกัดที่ไม่ใช้ความร้อน ดังนั้นกลิ่นของน้ำมันจึงควรจะคงเดิมตามธรรมชาติ ไม่ผ่านการปรุงแต่งจนหอมผิดปกติ
2. มีสีธรรมชาติ เช่น สีเหลืองทอง หรือสีใสธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชที่นำมาทำ ไม่ผ่านการปรุงแต่งหรือฟอกสี
3. น้ำมันสกัดเย็นต้องบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและรักษาคุณภาพได้ดีแม้เปิดใช้งานแล้ว ไม่ปล่อยให้ผลิตภัณฑ์เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันกับอากาศหรือแสงอาทิตย์จนเหม็นหืน
4. ปกติแล้วสกินแคร์จากธรรมชาติ จะมีวันหมดอายุเร็วกว่าสกินแคร์ทั่วไป เนื่องจากไม่ใช้วัตถุกันเสียและไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยวิธีอื่นเพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์ หากเจอผลิตภัณฑ์ที่เก็บได้ไม่นานจึงไม่ต้องตกใจ
ได้รู้กันไปแล้วว่าสกินแคร์จากกระบวนการสกัดเย็นดีต่อผิวและน่าใช้งานอย่างไรบ้าง หากใครต้องการบำรุงผิวด้วยน้ำมันประเภทนี้ ลองเริ่มจากออยล์บำรุงผิวอย่างน้ำมันโจโจบาและน้ำมันมะรุมสกัดเย็นซึ่งเป็นออยล์ยอดนิยมจาก YURI & TERRA ผลิตจากโจโจบาและมะรุมในฟาร์มออร์แกนิกที่เก็บเกี่ยวด้วยมือ มอบวิตามินและสารอาหารที่จำเป็น ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น และยังใช้ง่าย เหมาะกับทุกสภาพผิว ขวดเดียวได้ทั้งทำความสะอาดเครื่องสำอาง ขจัดสิวเสี้ยน ปลอบประโลมผิวช่วยลดการอักเสบ คืนความอ่อนเยาว์ ทั้งยังมีฤทธิ์ช่วยจัดการกับแบคทีเรียจึงใช้ได้แม้กับผิวที่เป็นสิวอีกด้วย มาทำความรู้จักกับออยล์ที่เหมาะกับผิวคุณให้มากขึ้นได้ที่นี่