“ผิว” ที่ต้องเผชิญกับทั้งมลภาวะ ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรก เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ และทำให้มีปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นสิวหรือเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ซึ่งนอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ผิวของเรายังสามารถถูกทำร้ายได้จากสกินแคร์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันด้วย 
 

ปัจจุบันเทรนด์สกินแคร์ออร์แกนิคได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์ได้ออกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ชูเรื่องส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติออกมาจัดจำหน่าย แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นเพียงการทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นสกินแคร์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ และมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการโฆษณาที่คลุมเครือ หรือใช้ฉลากสินค้าที่ให้ข้อมูลแบบบิดเบือน ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้ซื้อสกินแคร์เหล่านั้นไปใช้ และยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแวดล้อมอีกด้วย
 

นั่นจึงทำให้สาว  ๆ หลายคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงอาการแพ้และปัญหาผิวจากสารเคมีบางชนิด จึงหันมาเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติแบบ 100% และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิต เพราะมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า สกินแคร์จากธรรมชาติจะอ่อนโยนและสามารถช่วยดูแลผิวบอกบางแพ้ง่ายได้จริงหรือไม่ หากสาว ๆ คนไหนอยากรู้ ต้องไม่พลาดกับบทความนี้!

สกินแคร์ออร์แกนิคช่วยดูแลผิวบอบบางและแพ้ง่าย

มัดรวม 7 เหตุผลที่ควรใช้สกินแคร์จากธรรมชาติ

1. ปลอดสารอันตราย

ขึ้นชื่อว่าเป็นสกินแคร์ออร์แกนิค หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ก็ย่อมมั่นใจได้ว่าจะไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว ผิวของคุณจึงได้รับการบำรุงและดูแลจากธรรมชาติที่ปราศจากสารปรุงแต่งหรือสารเคมี จึงหมดกังวลได้ว่าผิวจะไม่เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง และเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาอย่างไม่รู้จบ

2. อ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่าย

สกินแคร์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ย่อมมีความอ่อนโยนและไม่ทำร้ายผิว จึงเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะในสกินแคร์ที่ผลิตจากส่วนผสมของธรรมชาติในแบบออร์แกนิคแท้ ๆ จะไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใด ๆ ไม่ว่าจะเป็น พาราเบน  ไฮโดรควิโนน ฟอร์มาลดีไฮน์ ซึ่งมักเป็นส่วนผสมที่อยู่ในสกินแคร์ทั่ว ๆ ไป จึงหมดกังวลได้ว่า ผิวของคุณจะเกิดการระคายเคืองจากสารเคมีเหล่านี้ 

3.ไม่มีผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของสารเคมีในสกินแคร์ทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาสิว ผิวอักเสบ และผดผื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค เช่น ภูมิแพ้ หรือส่งผลต่อฮอร์โมน ทำให้ฮอร์โมนของเราเปลี่ยนแปลงไป แต่สำหรับสกินแคร์จากธรรมชาติ ที่ผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐาน นอกจากจะช่วยบำรุงผิวหน้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังจะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ อีกด้วย  

4. เต็มไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ

สกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ จะอุดมไปด้วยสารสกัดเข้มข้น ที่สามารถช่วยดูแลปกป้องผิวได้อย่างล้ำลึก ยกตัวอย่างเช่น โจโจบาออยล์ ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวและช่วยลดเลือนริ้วรอย พร้อมมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว รวมถึงยังเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่สกินแคร์และเครื่องสำอางหลากหลายแบรนด์เลือกใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญด้วย

5. กลิ่นหอมปรนนิบัติผิว

ใครว่ากลิ่นหอมต้องมาจากน้ำหอมเท่านั้น แต่สกินแคร์ที่สกัดจากธรรมชาติแท้ ๆ ก็สามารถมีกลิ่นหอมน่าใช้ได้เช่นกัน อีกทั้งยังให้กลิ่นหอมที่ละมุน อ่อนโยน และช่วยปรนนิบัติผิวให้ชุ่มชื่น เนียนนุ่ม ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว

6. ผิวสุขภาพดีในระยะยาว

สกินแคร์จากธรรมชาติ จะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก และเมื่อซึมเข้าสู่ผิวของเราแล้ว ยังทำให้เรามั่นใจได้ว่าไร้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว ส่งผลให้ผิวหน้าและผิวกายของเรามีสุขภาพที่ดี และเมื่อใช้ไปนาน ๆ ยังไม่สร้างปัญหาให้กับผิวของเราอีกด้วย 

7. เป็นมิตรต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อม

ในขั้นตอนการสกัด หรือกระบวนการผลิตของสกินแคร์จากธรรมชาติ จะไม่มีขั้นตอนของการปล่อยสารเคมีเข้าสู่อากาศและน้ำ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญสกินแคร์จากธรรมชาติยังไม่นิยมทำการทดลองกับสัตว์ จึงเป็นมิตรต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและไม่ทำร้ายสัตว์อีกด้วย
 

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่า เราควรหันมาใช้สกินแคร์จากธรรมชาติอย่างโจโจบาออยล์บำรุงผิว ซึ่งมีส่วนช่วยเติมความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะนอกจากจะดีต่อผิวของเราแล้ว ยังดีต่อโลกด้วยเช่นกัน